การต้องกลายร่างเป็น “ไก่ชนเทวดา” และ “ม้าบินพาชี” ของ “พาลเทพ” ไม่ใช่ครั้งแรกของจักรวาลละครจักรๆ วงศ์ๆ สามเศียร ซึ่งตัวละครเทวดาถูกสาปให้มีเรือนร่างเป็นสัตว์เพื่อชดใช้ความผิด
อย่างน้อยที่สุด เมื่อย้อนไปในปี 2556 ละครเรื่อง “จันทร์ สุริยคาธ” ซึ่งเล่นกับการกลับหัวกลับหางของระบบระเบียบ-ฐานานุศักดิ์อย่างเมามัน ก็เคยกำหนดให้สองเทวดา คือ “พระรำพัด” และ “พระรำเพย” ต้องมีหางงอกออกจากบริเวณก้นประหนึ่งสุนัขมาแล้ว
เทวดาทั้งสององค์ได้รับบัญชาจาก “พระอินทร์” ให้คอยมาจับตาดูและผลักดันสองพี่น้อง “จันทคาธ” กับ “สุริยคาธ” ให้สามารถนำ “แก้วทิพยเนตร” กลับคืนสรวงสวรรค์โดยเร็วไว
อย่างไรก็ดี พอนานวันเข้า “พระรำพัด” กับ “พระรำเพย” ก็เริ่มตีความภารกิจดังกล่าวผิดพลาดไป โดยหลงเข้าใจว่าพวกตนควรจะต้องคอยกลั่นแกล้งและสร้างอุปสรรคต่างๆ นานา กีดขวาง “จันทคาธ-สุริยคาธ” ไม่รวมถึงการมีพฤติกรรมสำมะเลเทเมาเหมือนมนุษย์ และการเกิดความคิดที่อยากจะครอบครอง “แก้วทิพยเนตร” เสียเองในบางชั่วขณะ
ส่งผลให้ “หญ้าเขียว-หญ้าแดง” ผู้ช่วยระดับรากหญ้าของสองพระเอก ได้สาปให้สองเทวดามีหางงอกออกมาจากก้น และหางที่ว่านี้จะยืดยาวขึ้นเรื่อยๆ ตามการกระทำความผิดครั้งแล้วครั้งเล่าของ “พระรำพัด-พระรำเพย”
ดูเหมือนเรือนร่างครึ่งเทวดาครึ่งสัตว์ของ “พาลเทพ” ใน “นางสิบสอง/พระรถเมรี 2562” จะได้รับอิทธิพลมาจากตัวละคร “พระรำพัด” กับ “พระรำเพย” อยู่ไม่น้อย
“พาลเทพ” ที่เจ้าคิดเจ้าแค้นกับมนุษย์ผู้ไม่เคารพเทวดา/สิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่าง “เศรษฐีนนท์” จนพลอยตามมารังแกคนรุ่นลูก คือ “นางสิบสอง” ด้วย
“พระอินทร์” จึงลงโทษให้ “พาลเทพ” ต้องกลายร่างเป็น “ไก่ชน” และ “ม้าบิน” ผู้ช่วย “รถเสน” (ถือว่าคนเขียนบทสามารถลากซับพล็อตใหม่ว่าด้วย “เทวดา” ที่ใช้อำนาจในทางผิด มาเจอกับโครงเรื่องเดิมๆ ของ “นางสิบสอง” ได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ) และคำสาปนี้จะสูญสลายลงเมื่อเทวดานิสัยพาลได้รับการอโหสิกรรมจาก “เศรษฐีนนท์”
แม้ผู้ที่กำหนดคาแรกเตอร์ของ “พาลเทพ” ในปี 2562-63 จะเป็น “รัมภา ภิรมย์ภักดี” มิใช่ “นันทนา วีระชน” ผู้เขียนบท “จันทร์ สุริยคาธ” ก็ตามที
ภาพนำจาก ยูทูบสามเศียร
1 Comment