อ่านบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่อง “มะลิลา” ได้ที่นี่ >>> https://konmongnangetc.com/2018/02/13/malila-review/
“มะลิลา” ผลงานภาพยนตร์ขนาดยาวลำดับที่สองของ “อนุชา บุญยวรรธนะ” คว้ารางวัล “คิม จิซก อวอร์ด” จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน 2017 มาครองได้สำเร็จ
รางวัลดังกล่าวเป็นรางวัลที่ถูกริเริ่มขึ้นใหม่ในปีนี้ เพื่อเป็นเกียรติแก่ “คิม จิซก” ผู้ร่วมก่อตั้งเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซานที่เพิ่งเสียชีวิตไป โดยมีภาพยนตร์เอเชีย 10 เรื่อง เข้าร่วมชิงชัย
ไม่เพียงเท่านั้น “เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ” หนึ่งในนักแสดงนำของเรื่อง ยังได้รับรางวัล “ดาราเอเชียน่าจับตามอง” (Face of Asia Award) ซึ่งเป็นรางวัลที่นิตยสารมารี แคลร์ จัดมอบร่วมกับเทศกาลภาพยนตร์ปูซาน
ก่อนเข้าร่วมเทศกาลที่เกาหลี เรื่องย่อของหนังที่เผยแพร่ออกมาระบุว่า “มะลิลา” เป็นภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวความรักความอาลัยถึงผู้ที่จากไป เมื่อ “เชน” (เวียร์ ศุกลวัฒน์) เจ้าของสวนมะลิผู้มีอดีตอันเจ็บปวด และ “พิช” (โอ อนุชิต สพันธุ์พงษ์) ศิลปินนักทำบายศรี อดีตคนรักของเชนในวัยเด็ก ได้หวนกลับมาพบกันอีกครั้ง ทั้งคู่จึงพยายามเยียวยาบาดแผลในอดีตและรื้อฟื้นความสัมพันธ์ผ่านการทำบายศรีอันงดงาม
หลังเข้าฉายรอบเวิลด์พรีเมียร์ที่ปูซาน รายละเอียดในเรื่องย่อของ “มะลิลา” ก็ดูเหมือนจะได้รับการเปิดเผยเพิ่มเติมขึ้นมากพอสมควร โดยภูมิหลังของเชนนั้นคือชายผู้สูญเสียลูกสาวและแยกทางกับอดีตภรรยา ขณะที่พิชกำลังป่วยหนักด้วยโรคร้าย
จุดหักเหสำคัญในหนังดูคล้ายจะอยู่ที่การตัดสินใจบวชเป็นพระของเชน ด้วยความหวังว่าบุญกุศลที่เขาสร้าง จะสามารถช่วยขจัดโรคภัยไข้เจ็บให้แก่ชายที่เขารัก
สำหรับฟีดแบ็กที่กรรมการและนักวิจารณ์ต่างชาติมีต่อผลงานของอนุชาก็นับว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมากๆ
โดยคำประกาศส่วนหนึ่งของคณะกรรมการที่มอบรางวัลให้แก่หนังไทยเรื่องนี้ระบุว่า
“มะลิลา” ได้สำรวจภาวะไม่จีรังยั่งยืนผ่านสายตาแบบพุทธศาสนา โดยนำการทำบายศรีมาสื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นอนิจจังของชีวิตและอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์
ขณะที่ “ซาราห์ วอร์ด” จากเว็บไซต์สกรีนเดลี่ เขียนบทวิจารณ์ถึง “มะลิลา” เอาไว้ว่า
หนังเรื่องนี้เผยให้เห็นความอลังการของธรรมชาติและการดำรงอยู่ด้วยความกลัวของมนุษยชาติ ผ่านการนำเอาศิลปะการสร้างสรรค์บายศรี มาเป็นอุปลักษณ์ซึ่งสื่อถึงภาวะเปราะบางของชีวิตและความตายอันมิอาจหลบเลี่ยงไปได้พ้น
วอร์ดชี้ว่า หากเปรียบเทียบกับ “อนธการ” หนังยาวเรื่องแรกของอนุชา (ที่ได้ไปเปิดตัว ณ เทศกาลภาพยนตร์เบอร์ลิน) ซึ่งนำเสนอเรื่องราวในโทนมืดมิด ผ่านภาวะคาบเกี่ยวกันระหว่างความตายกับความฝัน
“มะลิลา” ก็คล้ายกำลังจะพาคนดูไปแสวงหาความหวัง ผ่านลักษณะอันสงบนิ่งที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ค่อยๆ พิจารณาไตร่ตรองเรื่องราวอันละเอียดอ่อนของภาพยนตร์
นักวิจารณ์ต่างชาติคนนี้ยังกล่าวถึงบรรดารายละเอียดหรือองค์ประกอบภาพต่างๆ ที่ถูกใส่เข้ามาในแต่ละเฟรมของหนัง ว่าล้วนทำหน้าที่สื่อสารเรื่องราวได้ไม่ต่างจากคำพูดของตัวละคร ขณะที่บทสนทนาในหนังก็ถูกใช้สอยอย่างรอบคอบ เพื่อเพิ่มเติมอารมณ์ความรู้สึกในบางสถานการณ์ แต่มิได้ถูกใส่เข้ามาจนพร่ำเพรื่อ
วอร์ดเห็นว่าสองนักแสดงนำอย่าง “เวียร์ ศุกลวัฒน์” และ “โอ อนุชิต” ได้ฝากผลงานการแสดงอันลึกซึ้งไว้ในหนังเรื่องนี้ โดยพวกเขาสามารถขับเคลื่อนตัวละครให้มีความประสานสอดคล้องเข้ากับสภาพแวดล้อมที่ดำรงอยู่รายรอบกาย
นอกจากนั้น ทั้งคู่ยังสามารถสร้างเฉดสีที่แตกต่างกันระหว่างตัวละครสองคนได้อย่างไม่ลำบากยากเย็นนัก และต่างคนต่างไม่ถ่ายทอดบุคลิกลักษณะของสองตัวละครนำ ที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนกับชีวิต, ความตาย, ความเศร้าโศก, ความเจ็บปวด หรือความไม่แน่นอน ด้วยการแสดงที่โอเวอร์หรือเบาบางจนเกินไป
ภาพยนตร์เรื่อง “มะลิลา” มีกำหนดจะเข้าฉายในเมืองไทยช่วงต้นปีหน้า
ขอบคุณข้อมูลจาก:
เพจเฟซบุ๊ก มะลิลา Malila The Farewell Flower
https://www.screendaily.com/reviews/malila-the-farewell-flower-busan-review/5122842.article
1 Comment