เน็ตฟลิกซ์เพิ่งประกาศข่าวสำคัญว่าทางบริษัทได้รับสิทธิ์ในการพัฒนานวนิยายเรื่อง “One Hundred Years of Solitude” หรือ “หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว” ของ “กาเบรียล การ์เซีย มาร์เกซ” ให้เป็นผลงานภาพเคลื่อนไหว
นี่นับเป็นครั้งแรกสุด ที่ผลงานการประพันธ์ชิ้นสำคัญ ซึ่งถูกตีพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ ค.ศ.1967 หรือ 52 ปีก่อน จะได้รับการดัดแปลงเป็น “ภาพยนตร์”
โรดริโก การ์เซีย บุตรของนักประพันธ์รางวัลโนเบลผู้ล่วงลับ ซึ่งจะรับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้าง “หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว” ฉบับภาพยนตร์ซีรี่ส์ของเน็ตฟลิกซ์ ร่วมกับกอนซาโล การ์เซีย บาร์ชา ผู้เป็นน้องชาย เปิดเผยว่าก่อนหน้านี้ พ่อของเขาได้รับข้อเสนอมากมาย ที่ต้องการจะนำนวนิยายเรื่องดังไปสร้างเป็นภาพยนตร์
อย่างไรก็ตาม กาเบรียล การ์เซีย มาร์เกซ วิตกกังวลว่า “หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว” จะถูกนำไปตีความอย่างผิดฝาผิดตัว ทั้งยังไม่เหมาะสมกับการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ขนาดยาว 1 เรื่อง (แม้จะแบ่งเป็นสองภาคก็ตาม)
นอกจากนั้น ยอดนักเขียนผู้ล่วงลับยังต้องการให้เรื่องราวในภาพยนตร์ถูกถ่ายทอดด้วยภาษาสเปน ซึ่งนี่กลายเป็นอุปสรรคสำคัญของบริษัทสร้างหนังจำนวนมาก ที่เคยยื่นข้อเสนอเข้ามา
อย่างไรก็ตาม โรดริโก การ์เซีย มองว่า ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ภาพยนตร์ซีรี่ส์นั้นได้รับผลตอบรับที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ด้วยเหตุนี้ ทางครอบครัวมาร์เกซจึงตัดสินใจขายสิทธิ์ในการพัฒนาโปรเจ็คท์ภาพยนตร์ “หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว” ให้แก่เจ้าพ่อซีรี่ส์ออนไลน์อย่างเน็ตฟลิกซ์
“เน็ตฟลิกซ์คือหนึ่งในผู้ประกอบการที่พิสูจน์ให้เห็นว่า มีผู้ชมจำนวนมากขึ้น ที่พร้อมจะบริโภคซีรี่ส์ภาษาต่างประเทศโดยมีซับไตเติ้ลเป็นตัวช่วย ดังนั้น สิ่งที่เหมือนจะเป็นปัญหา จึงไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป” โรดริโก การ์เซีย แสดงทัศนะ
ฟรานซิสโก รามอส รองประธานฝ่ายภาพยนตร์ออริจินัลภาษาสเปนของเน็ตฟลิกซ์ ระบุว่า บริษัทเคยพยายามติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์ของ “หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว” แต่ถูกต่อต้านทุกครั้ง กระทั่งมาประสบความสำเร็จในคราวนี้
รามอสยังระบุถึงความสำเร็จของซีรี่ส์เรื่อง Narcos และภาพยนตร์เรื่อง Roma ที่เพิ่งคว้ารางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ว่าผลงานทั้งคู่ที่อำนวยการผลิตโดยเน็ตฟลิกซ์ ได้แสดงให้เห็นว่า ทางบริษัทสามารถผลิตสื่อบันเทิงภาษาสเปนให้เข้าถึงประชาคมโลกได้
“หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว” ถือเป็นมาสเตอร์พีซของวงการวรรณกรรมละตินอเมริกัน ซึ่งส่งผลให้กาเบรียล การ์เซีย มาร์เกซ ผงาดขึ้นเป็นนักเขียนแถวหน้า ท่ามกลางกระแสความนิยมที่มีต่อวรรณกรรมกลุ่มนี้ในช่วงทศวรรษ 1960-70 ทั้งยังช่วยผลักดันให้วรรณกรรมสกุล “สัจนิยมมหัศจรรย์” ถูกผลิตและกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง
จนถึงปัจจุบัน นวนิยายเรื่องนี้มียอดขายประมาณ 50 ล้านเล่มทั่วโลก และได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ จำนวน 46 ภาษา (รวมถึงภาษาไทย)
ผู้บริหารเน็ตฟลิกซ์อย่างรามอสกล่าวว่าสำหรับผู้คนอเมริกาใต้และชาวโคลอมเบีย เรื่องราวที่ถูกเล่าขานผ่านช่วงเวลา 1 ศตวรรษเกี่ยวกับผู้นำเผด็จการ การก่อกำเนิดของประเทศแห่งใหม่ และลัทธิอาณานิคม ในบทประพันธ์ชิ้นเอกนี้ ได้มีส่วนสำคัญต่อการก่อรูปอัตลักษณ์ร่วมของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม นวนิยายเรื่องนี้ยังมีศักยภาพที่จะเข้าถึงผู้คนวงกว้างในระดับสากลได้ด้วย
ด้านโรดริโก การ์เซีย เปิดเผยว่า ตัวเขาเองได้ยินข้อถกเถียงเรื่องการซื้อขายลิขสิทธิ์ “หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว” มาตั้งแต่ตอนอายุ 8 ขวบ ก่อนที่ข้อถกเถียงทั้งหมดจะยุติลงในสัปดาห์นี้
“สำหรับผม น้องชาย และแม่ นี่ไม่ใช่การตัดสินใจที่ยุ่งยากลำบากลำบน พวกเรารู้สึกเหมือนกับว่าเรื่องราวอันยิ่งใหญ่บทใหม่กำลังจะเปิดฉากขึ้น พร้อมกับการปิดฉากลงของเรื่องราวอันยาวนานบทก่อนหน้า”
ที่มา นิวยอร์กไทม์ส
ขอบคุณภาพประกอบจาก สำนักพิมพ์บทจร