“เมรี 2562 – พิงค์ กมลวรรณ” จากนางงามสู่ “นางร้าย-นางไม้-นางเอก” ละครจักรๆ วงศ์ๆ

คลิกอ่าน “พระรถเมรี 2562” เมื่อ “ฤาษีแปลงสาร” ไม่ได้มีความสำคัญอีกต่อไป

ตอนเริ่มเปิดกล้องละคร “นางสิบสอง 2562” ใหม่ๆ หลายคนเซอร์ไพรส์ไม่น้อยเมื่อได้ทราบว่าผู้จะมาสวมบท “เมรี” ในละครฉบับนี้ คือ “พิงค์ กมลวรรณ ศตรัตพะยูน”

ที่เลื่อนชั้นมาจากบท “โหงพราย/หงส์ฟ้า” ผีตัวร้ายกึ่งตลกใน “สังข์ทอง 2561” และ “นางไม้ใจดี” (แต่ปรากฏตัวแค่ไม่กี่ฉาก) ใน “ขวานฟ้าหน้าดำ 2562”

อย่างไรก็ตาม พอส่องดูเส้นทางในวงการบันเทิงของพิงค์ คงต้องยอมรับว่าเธอเติบโตมาใน “เส้นทางสายหลัก” สำหรับผู้ต้องการจะเป็นนางเอกละครจักรๆ วงศ์ๆ ยุคปัจจุบัน

นั่นคือ “ถนนสายนางงาม”

แม้จะดูเป็นผู้หญิงหน้าไทยๆ รูปร่างเล็กๆ แต่ “พิงค์ กมลวรรณ” ก็ได้รับตำแหน่งรองอันดับหนึ่งบนเวทีมิสทีนไทยแลนด์ 2011 (พ.ศ.2554) และผ่านเข้ารอบสุดท้ายในการประกวดนางสาวไทย พ.ศ.2559 (ยุคที่กองประกวดประกาศว่าไม่ต้องการผู้หญิงตัวสูง) ขณะมีวัย 20 ปี

การจัดประกวดนางสาวไทยปีนั้น มีผู้บริหารค่ายดีด้า-สามเศียรเข้าไปมีบทบาทอยู่ด้วยพอสมควร จึงไม่แปลกที่จะมีผู้เข้าประกวดหลายรายได้รับโอกาสให้มาแสดงละครจักรๆ วงศ์ๆ

ไม่ว่าจะเป็นรองนางสาวไทยอย่าง “ปิ่นทิพย์ อรชร” (นางเอกขวานฟ้าหน้าดำ หรือ “ดาวราย” ในนางสิบสอง), “ชนารดี อุ่นทะศรี” (“อี่” ในนางสิบสอง) และ “วรัญภรณ์ ณ พัทลุง” (นางเอกอุทัยเทวี หรือ “บัว” ในนางสิบสอง)

“พิงค์ กมลวรรณ” จึงเป็นอีกหนึ่งนางงามยุคใหม่ที่ก้าวเข้ามาชิมลางในวงการบันเทิงไทย ด้วยการร่วมแสดงละครโทรทัศน์จักรๆ วงศ์ๆ แถมเธอยังใช้เวลาไม่นาน ในการเลื่อนชั้นขึ้นเป็นนางเอก (นับว่าเร็วกว่านางงามรุ่นพี่-รุ่นเพื่อนอีกหลายราย)

ที่สำคัญ เมื่อได้รับบท “เมรี” ใน “นางสิบสอง” แล้ว ก็เท่ากับว่า “พิงค์ กมลวรรณ ศตรัตพะยูน” จะได้สวมบทนางเอกใน “พระสุธน-มโนราห์” ต่อเนื่องกันทันที

จนกลายเป็นนางเอกจักรๆ วงศ์ๆ สองเรื่องซ้อน (จะเป็นรองก็แค่ “ข้าวตู พลพจน์ พูลนิล” ที่รับบทพระเอกสามเรื่องรวด จาก “ขวานฟ้าหน้าดำ” สู่ “นางสิบสอง” และ “พระสุธน-มโนราห์”)

ภาพนำจาก ยูทูบสามเศียร