“ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์” นักทำหนังและว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เพิ่งให้สัมภาษณ์กับ “ฮันนาห์ เอลลิส-ปีเตอร์เซน” แห่ง “เดอะ การ์เดียน”
โดยมีประเด็นน่าสนใจ ซึ่งบล็อกคนมองหนังขออนุญาตนำมาแปล-สรุปความ-เรียบเรียงใหม่ และแบ่งออกเป็นหัวข้อต่างๆ ดังนี้
ส.ส.ข้ามเพศคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

ฮันนาห์-ปีเตอร์เซน ระบุว่าแม้การเมืองไทยหลังเลือกตั้ง 24 มีนาคม จะเต็มไปด้วยความไร้เสถียรภาพ และยังไม่แน่ชัดว่าพรรคการเมืองฝ่ายไหนจะได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้มีจุดเล็กๆ ทว่าสำคัญ ที่บางคนอาจมองข้ามไป นั่นคือรัฐสภาไทยจะได้ต้อนรับธัญญ์วาริน ในฐานะ ส.ส.คนข้ามเพศรายแรกในประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศ
บรรดานักการเมืองหน้าใหม่ที่มีธัญญ์วารินเป็นหนึ่งในนั้น กำลังบ่งชี้ว่าการเมืองไทยไม่ใช่พื้นที่เฉพาะสำหรับเหล่ามหาเศรษฐีหรือนายพลอีกต่อไป
“ฉันต้องการลงมือเขียนประวัติศาสตร์การเมืองไทยหน้าใหม่ ฉันใช้เวลาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในการทำหนังที่พูดถึงประสบการณ์ของกลุ่มคนข้ามเพศและ LGBT ในประเทศไทย แต่ต่อมา ก็รู้สึกว่าการเล่าเรื่องราวเหล่านั้นมันไม่เพียงพออีกแล้ว ฉันต้องการเข้าไปเปลี่ยนแปลงกฎหมายที่แบ่งแยกผู้คน สังคมไทยมีลักษณะเป็นระบบปิตาธิปไตยที่ไม่เสมอภาค และไม่ได้ให้คุณค่ามนุษย์ทุกคนอย่างทัดเทียมกัน ตลอดชีวิตของฉัน ฉันถูกปฏิบัติเหมือนเป็นพลเมืองชั้นสอง สิ่งแบบนี้มันไม่ควรจะเกิดขึ้นอีกต่อไป”
ฉันไม่ได้เข้าสภาเพื่อไปสร้างความบันเทิง!
ฮันนาห์-ปีเตอร์เซน ให้ข้อมูลว่าเหตุการณ์แรกที่ผลักดันธัญญ์วารินเข้าสู่วิถีการเมือง ก็คือ การต้องต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้หนังเรื่อง “Insects in the Backyard” ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์
จากนั้น เมื่อพรรคอนาคตใหม่ถือกำเนิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2561 โดยมีจุดยืนที่เป็นเสรีประชาธิปไตย หัวก้าวหน้า และกล้าวิพากษ์เผด็จการทหารอย่างหนักหน่วง รวมทั้งขับเน้นประเด็นเรื่องความเสมอภาคเป็นวาระหลักของพรรค
ธัญญ์วารินจึงสมัครเข้าไปร่วมงานกับพรรคการเมืองนี้ และได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์
แม้จะประสบความสำเร็จขั้นแรก ด้วยการได้รับเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 24 มีนาคม แต่ธัญญ์วารินยังมีเรื่องต้องพิสูจน์อีกมากมายบนเส้นทางสายการเมือง
“ฉันมีเรื่องต้องพิสูจน์อีกมากมาย ว่าตัวเองมีความรู้ความสามารถเพียงพอที่จะช่วยบริหารประเทศ และนั่นคือสิ่งท้าทาย แม้เมื่อฉันได้เป็นว่าที่ ส.ส. แล้ว บางคนก็ยังคงพูดจาว่าฉันจะเข้าไปเป็นแค่ผู้สร้างความบันเทิงในรัฐสภา แต่ฉันไม่ได้จะเข้าไปที่นั่นเพื่อสร้างความบันเทิงนะ ฉันจะเดินเข้าสภาในฐานะของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้ได้รับเลือกตั้ง นั่นหมายความว่าฉันมีเกียรติยศศักดิ์ศรีเทียบเท่าและมีความเสมอภาคกับ ส.ส. คนอื่นๆ”
เพศสภาพอันซับซ้อนในสังคมไทยและตัวตนของ “ธัญญ์วาริน”

ฮันนาห์-ปีเตอร์เซน บรรยายว่าประเทศไทยมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างสลับซับซ้อนกับกลุ่มคนข้ามเพศ ตัวอย่างชัดเจน คือ กรณีของ “กะเทย” ในสังคมไทย ที่สามารถแสดงตัวตนได้อย่างเปิดเผยกว่าในอีกหลายๆ สังคม ทว่าขณะเดียวกัน “กะเทยไทย” ส่วนใหญ่ก็ได้รับการปฏิบัติด้วยในฐานะพลเมืองชั้นสอง คนเหล่านี้มีทางเลือกจำกัดในการประกอบอาชีพ และเผชิญหน้าการแบ่งแยกกีดกันอยู่เสมอ
ที่สำคัญ กลุ่มคนข้ามเพศในสังคมไทยไม่ได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงข้อมูลเพศสภาพในบัตรประชาชน นั่นหมายความว่าผู้ที่ถือกำเนิดมาเป็นเพศชายจะต้องเข้าร่วมการเกณฑ์ทหาร ส่งผลให้บรรดาผู้หญิงข้ามเพศที่ผ่านการผ่าตัดแปลงเพศแล้วต้องเข้ารับการตรวจร่างกายอันดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เพื่อยืนยันว่าตนเองไม่ได้ปลอมตัวเป็นสตรีเพราะอยากหลีกเลี่ยงการ “รับใช้ชาติ” หรือต้องได้หนังสือรับรองจากแพทย์ว่าตนเองเป็นบุคคล “ผิดปกติ”
นอกจากนี้ ทั้งผู้ชายและผู้หญิงข้ามเพศยังไม่สามารถจดทะเบียนสมรสและรับเด็กมาเลี้ยงดูเป็นลูกได้
ธัญญ์วารินเปิดเผยว่าตนเองเริ่มแต่งกายและใช้ชีวิตเป็น “ผู้หญิง” เมื่ออายุ 17 ปี แต่ต่อมา ว่าที่ ส.ส. ผู้นี้ ก็ตระหนักว่าตนไม่ได้ปรารถนาจะเป็นทั้ง “ชาย” และ “หญิง” พร้อมกับมีความเชื่อว่ามนุษย์เราไม่ควรถูกกำหนดนิยามด้วยเรื่องเพศสภาพอันแข็งทื่อตายตัว
นี่จึงเป็นสาเหตุที่ธัญญ์วารินเลือกระบุให้ฮันนาห์-ปีเตอร์เซนใช้สรรพนาม “they” (ไม่ใช่ทั้ง เขา/he และเธอ/she) เมื่อจะกล่าวอ้างถึงตนเองในรายงานชิ้นนี้
ก้าวแรกในฐานะ ส.ส.

ภารกิจแรกที่ธัญญ์วารินต้องการลงมือทำในฐานะตัวแทนประชาชน คือ การผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในกฎหมายเกี่ยวกับการสมรสและระบบการศึกษาเรื่องเพศในโรงเรียน
“คุณลองจินตนาการดูสิ ว่าถ้าคุณเป็นคนข้ามเพศที่นั่งอยู่ในห้องเรียน แล้วตำราก็ระบุว่าคุณมีความผิดปกติทางจิต คุณจะกล้าบอกคนอื่นๆ ไหมว่าตัวเองเป็นใคร?”
อย่างไรก็ดี เมื่อผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการยังไม่ถูกประกาศออกมา ธัญญ์วารินจึงยังไม่ได้เป็น ส.ส. เต็มตัว เช่นเดียวกับพรรคอนาคตใหม่ ที่ยังไม่แน่ว่าจะได้ร่วมจัดตั้งรัฐบาลหรือต้องไปทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ท่ามกลางความเชื่อที่ว่าพรรคการเมืองฝ่ายที่สนับสนุนกองทัพและ คสช. จะได้สืบทอดอำนาจต่อ ตามระบบกติกาที่ออกแบบเอาไว้
“นี่ไม่ใช่การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม และประชาธิปไตยที่แท้จริงก็ยังจะไม่บังเกิดขึ้นหรอก แต่นี่คือการขยับก้าวไปข้างหน้าที่มีความสำคัญมาก”
ธัญญ์วารินพูดถึงความท้าทายทางการเมืองที่รอเธอและเพื่อนๆ ร่วมพรรค อยู่ตรงเบื้องหน้า
ที่มาเนื้อหา https://www.theguardian.com/world/2019/apr/06/i-am-not-here-to-entertain-meet-thailands-first-transgender-mp