วันที่ 12 มกราคม 2561 เวลา 19.00 น. ที่สมาคมฝรั่งเศส ถนนวิทยุ กทม. จะมีการจัดฉายหนังสั้นโปรแกรมพิเศษ Sorayos is NOT a model filmmaker
โดยจะเป็นการรวบรวมภาพยนตร์สั้นของ “สรยศ ประภาพันธ์” นักทำหนังสั้นชาวไทยที่มีผลงานออกไปโลดแล่นในระดับนานาชาติตลอดหลายปีหลัง มานำเสนอจำนวน 5 เรื่อง ได้แก่
บุญเริ่ม, ดาวอินดี้, ของฝากจากสวิตเซอร์แลนด์, รักษาดินแดน และอวสานซาวด์แมน ผลงานหนังสั้นเรื่องล่าสุดของสรยศ ที่ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง และได้รับรางวัลจากหลายเทศกาล เมื่อปีที่ผ่านมา
คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมได้ที่ https://www.facebook.com/events/283624708831299/
ก่อนหน้านี้ สรยศเพิ่งให้สัมภาษณ์กับนัชชา ตันติวิทยาพิทักษ์ ลงในเว็บไซต์ประชาไท เมื่อเดือนธันวาคม 2560
สรยศพูดถึงหนังสั้น “อวสานซาวด์แมน” ว่า นอกจากจะตั้งใจทำหนังเกี่ยวกับเรื่อง “เสียง” แล้ว นิสัยอย่างหนึ่งที่ติดตัวเขา ก็คือ การต้องใส่บริบททางการเมืองภายในประเทศลงไปในผลงานด้วย ซึ่งจะส่งผลให้ตัวงานมีความแตกต่างจากหนังของประเทศ/ทวีปอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม สรยศยอมรับว่าในฐานะคนทำหนัง ถ้าสามารถตัดเรื่องบริบททางการเมืองภายในประเทศออกไปได้ แล้วสื่อสารด้วยภาษาภาพยนตร์ที่เป็นสากลแบบเพียวๆ ไปเลย ก็น่าจะช่วยให้ผลงานสามารถเข้าถึงผู้ชมนานาชาติในวงกว้างยิ่งขึ้น แต่อีกด้าน เขายอมรับว่านั่นคือสิ่งที่ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะหนังต้องมีความเกี่ยวพันกับมนุษย์ และมนุษย์ก็ไม่ได้มีชีวิตอยู่ในโรงภาพยนตร์เพียงเท่านั้น
นอกจากนี้ ดังที่ได้ทราบกันว่าสรยศพยายามจะกล่าวรำลึกถึง “ชัยภูมิ ป่าแส” นักกิจกรรม-นักทำหนังสั้น ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตโดยเจ้าหน้าที่รัฐ หลังหนังสั้น “อวสานซาวด์แมน” ได้รับรางวัลที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ขณะเดียวกัน ก็มีองค์ประกอบบางส่วนในหนังเรื่องดังกล่าวที่เชื่อมโยงไปถึงกรณีการเสียชีวิตของชัยภูมิ
สรยศพูดถึงประเด็นนี้ผ่านบทสัมภาษณ์เอาไว้ว่า
“ตอนแรกที่คิดจะทำหนังไม่ได้คิดถึง ตอนเขียนบทเขาก็ยังอยู่ แต่พอเขาตายเราอ่านชื่อเขาแล้วเราก็ เฮ้ย! มันชื่อคนในทีมงานหนังสั้นนี่หว่า แล้วเขาทำเสียงด้วย สุดท้ายก็ตัดสินใจใส่เสียงปืนเข้าไป เพราะมันเกิดขึ้นกับเขาแล้วเขาเป็นซาวด์แมน แค่นั้นแหละ จริงๆ ไม่ได้มีเหตุผลมากกว่านั้น เราไม่ได้อยากพูดว่าเราทำเพราะเขา เราจะทำอยู่แล้ว แต่ที่มันเหี้ยคือเขาเสือกซวยเกิดอะไรขึ้นแบบนั้น เราก็เลยทำส่วนนั้นเพิ่ม
“เราเซ็งมาก เขาไม่ควรตาย เราบ่นกับตัวเองมากเลยนะว่าทำไมยังทำหนังการเมือง แต่ก็เพราะประเทศนี้มันยังมีเรื่องให้พูดถึงอยู่ มี material ให้พูดอยู่”
เมื่อนัชชาถามสรยศว่า เขามีความคิดที่จะทำหนังเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศหรือไม่?
สรยศตอบว่าในฐานะคนทำหนัง เขาไม่ได้หวังถึงขั้นนั้น แม้เขาจะอยากให้ประเทศนี้เปลี่ยนแปลงก็ตาม นักทำหนังสั้นผู้นี้อธิบายต่อว่า เขาแค่ทำหนังเพื่อด่าคนที่ตนเองไม่เห็นด้วย โดยยกตัวอย่างให้เห็นเป็นภาพต่อภาพ
“เหมือนได้ตบหน้ามึงแล้ว แต่มึงจะเปลี่ยนแปลงรึเปล่าไม่รู้” เขากล่าว
คลิกอ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มที่ https://prachatai.com/journal/2017/12/74664