“บุตรธิดาแห่งมาตุภูมิ” (บทกวีจากหนัง)

หมายเหตุ ถอดความ-แปรความจากเนื้อหาของเพลง “Anak Ng Bayan” ที่ปรากฏในภาพยนตร์ฟิลิปปินส์เรื่อง “A Lullaby to the Sorrowful Mystery” กำกับโดย “ลาฟ ดิแอซ” https://www.youtube.com/watch?v=4juoATkeuSo แม่พ่อจ๋าลูกขอขมาไหว้ก่อนออกเดินทางไกลทะลุฟ้าศึกครานี้ลูกอาจวายชีวาเพื่อไขว่คว้าใฝ่หาซึ่งเสรี แม่พ่อจ๋าอย่ากังวลห่วงอะไรลูกจะเก็บรักใส่ใจไปทุกที่รักเอ่อท้นหัวใจคนอีกมากมีรักล้นปรี่ที่พักแรมตามรายทาง แม่พ่อจ๋าท่านจะไม่โดดเดี่ยวลูกมิได้สู้คนเดียวอย่างอ้างว้างลูกมีเพื่อนมากมายอยู่เคียงข้างเราจะแผ้วถางซ่อมสร้างมาตุภูมิ แม่พ่อจ๋าได้รับสารของลูกไหมจากเหล่ามิตรสหายที่มารวมกลุ่มโปรดเมตตายามพวกเขามาชุมนุมโปรดปกคุ้มดุจดังบุตรธิดาตน แม่พ่อจ๋ายามลูกหันหลังจากจุดหมาย ณ อีกฟากจักไม่หมองหม่นเสรีภาพจักเฉิดฉายกลบมืดมนฝันจักถูกบันดาลดลตรงบั้นปลาย ภาพปกจาก www.matichon.co.th

“ถ้าโลกนี้…” (เพลง/บทกวีจากภาพยนตร์เรื่อง “Season of the Devil”)

ถ้าโลกนี้ไร้ซึ่งสีสันฉันจะทำอะไรกับฤดูใบไม้ผลิ?ฉันจะทำอะไรกับฤดูร้อน?ที่จะปลุกฉันให้ฟื้นตื่นจากนิทรา ถ้าโลกนี้ไร้ซึ่งแสงสว่างฉันจะทำอะไรเมื่อยามพระอาทิตย์ขึ้น?ฉันจะทำอะไรเมื่อยามสุริยาลับขอบฟ้า?ที่จะบ่งชี้ว่าฉันถึงเวลาได้หลับใหล ถ้าโลกนี้ไร้ซึ่งท่วงทำนองฉันจะทำอะไรกับเสียงสายฝนโปรยปราย?ฉันจะทำอะไรกับบทเพลงกล่อมเด็กอันหลากหลาย?ที่จะก่อกำเนิดตัวฉันขึ้นมา ถ้าโลกนี้ไร้ซึ่งหัวใจฉันจะทำอะไรกับความเจ็บปวดรวดร้าว?ฉันจะทำอะไรกับความรู้สึกทุกข์ร้อนแทนผู้อื่น?ที่จะกักขังฉันไว้จนปราศจากอิสรภาพ หมายเหตุ แปลจากบทเพลง/บทกวีชิ้นหนึ่ง ซึ่งปรากฏอยู่หลายหนในภาพยนตร์เรื่อง "Season of the Devil" โดย "ลาฟ ดิแอซ"

บทกวี “เดอะ มิชชั่น” (ระลึกถึง “เอนนิโอ มอร์ริโคเน”)

Gonzalo Tello / CC BY (https://creativecommons.org/licenses/by/2.0) หมายเหตุ ผมเขียนกาพย์ชิ้นนี้หลังจากได้ดูภาพยนตร์เรื่อง “The Mission” เมื่อสมัยเรียนปริญญาตรีปี 1 ตอน พ.ศ.2543 ต่อมา จึงนำมันไปตีพิมพ์ลงในหนังสือทำมือของตนเอง ที่วางขาย ณ งานแฟต เฟสติวัล ครั้งแรก (บรรพบุรุษของแคท เอ็กซ์โป ในปัจจุบัน)ขออนุญาตนำงานเขียนสมัยยังเยาว์วัยมาเผยแพร่ซ้ำอีกครั้ง ณ พื้นที่นี้ เพื่อรำลึกถึง “เอนนิโอ มอร์ริโคเน” (1928-2020)…

“Jocelynang Baliwag” (บทกวีแปลจากเพลงประกอบภาพยนตร์ของ “ลาฟ ดิแอซ”)

“Jocelynang Baliwag” https://www.youtube.com/watch?v=vVeDuJQmk_s รักเดียวที่จิตวิญญาณฉันทูนเทิด ถือกำเนิดอย่างพิสุทธิ์งามเลิศหล้า เป็นน้ำปรุงกลั่นจากยอดแห่งผกา คือธาราพุ่งสราญบันดาลใจ ดุจน้ำพุสุขกำซาบบนสวนสวรรค์ ติดตรึงฉันตราบชีวีจะหาไม่ เนตรเย้ายวนรอยยิ้มหวานกว่าใครๆ กล่อมดอกไม้ให้ผลิบานเกินคะเน เมตตาเธอฉันน้อมรับปราศเงื่อนไข ยึดมั่นไว้ไร้ความกลัวไม่หันเห ยอดชีวาไถ่บาปฉันอย่าทิ้งเท กลางทะเลผันผวนอย่าปล่อยจม คนต่ำต้อยขัดสนอยากวอนขอ ฉันเฝ้ารอรักแท้ในยุคขืนข่ม ฉันยอมเป็นยาจกดูโง่งม ดีกว่ากลวงเปล่าเศร้าตรมไร้หวังใด (ถอดความจากซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษในภาพยนตร์เรื่อง “A Lullaby to the Sorrowful Mystery” ของ “ลาฟ ดิแอซ”) https://www.youtube.com/watch?v=STxchtw6g88…

กลอนเก่าๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังเรื่อง “คนจรฯลฯ”

คนจรฯลฯ ต่างคนต่างมีที่มา ต่างคนต่างค้นหาซึ่งจุดหมาย ต่างคนต่างอยากสานฝันอันเพริศพราย ให้กลับกลายเป็นจริงสมใจตน หากแต่เป็นเรื่องของความบังเอิญ ทำให้ต้องเผชิญหน้ากันอย่างสับสน ในขณะที่ต่างคนต่างดิ้นรน อาจมีผลกระทบกันเป็นธรรมดา หวังอะไรก็ทำอย่างที่หวัง ที่กระทบกระทั่งกันอย่าถือสา และแล้วคืนวันและเวลา จะปรับทุกสิ่งเข้าหากันอย่างสมดุล อาจมีบางคนลุความฝันสมใจอยาก อาจมีบ้างที่ฝันพรากและเสียศูนย์ มีคนดีใจมีคนอาดูร เพิ่มเติมความสมบูรณ์ของชีวิต คนนี้ยังคงอยู่ตามหาฝัน คนนั้นก้าวต่อไปตามใจลิขิต ต่างคนต่างเป็นไปตามความคิด และสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล สุดท้ายเหลือเพียงความทรงจำ ในพฤติกรรมอันสับสน มีดีมีเลวปะปน มีคนจรมาและจรไป หลังชมภาพยนตร์เรื่อง "คนจรฯลฯ" ของอรรถพร ไทยหิรัญ เมื่อปี…

(บทกวี) Chungking Express: ในบรรยากาศที่หนืดและข้นคลั่ก เชื่อเถอะ ความรักก่อเกิดได้

วันที่ 1 พฤษภาคม คงทำให้คอหนังหลายคนหวนนึกถึงภาพยนตร์เรื่อง Chungking Express ของหว่องกาไว ซึ่งมีตัวละครนำเหงาๆ เพิ่งอกหักรายหนึ่ง เข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ต ช่วงดึกของวันที่ 30 เมษายน เพื่อขอซื้อสับปะรดกระป๋องที่จะหมดอายุในวันที่ 1 พฤษภาคม มารับประทาน จึงขออนุญาตนำเอากลอนที่ตนเองแต่งไว้ตั้งแต่ช่วงเรียนมหาวิทยาลัยปี 1 หรือปี 2 (ก่อนจะนำไปรวมเล่มในหนังสือทำมือ ซึ่งทำขายเมื่อคราวแฟต เฟสติวัล ครั้งแรก) มาเผยแพร่ซ้ำอีกครั้งในบล็อกนี้ครับ Chungking Express หลายหลากผู้คนวุ่นวาย ต่างเวียนว่ายว้าเหว่สับสน ในบรรยากาศที่ค่อนข้างหม่น…